wordpress-%e0%b8%84%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3WordPress  คือ โปรแกรมสำเร็จรูปที่มีไว้เพื่อสร้างและจัดการเนื้อหาบนอินเตอร์เน็ต ( Contents Management System หรือ CMS) กล่าวคือ แทนที่เราจะดาวโหลดโปรแกรมมาทำการสร้างและออกแบบเว็บไซต์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราอย่างเช่น Microsoft Fontpage ,Edit Plus(ตัวนี้ ไฮโซหน่อย) เป็นต้น  แต่ CMS นั้นถูกสร้างมาเพื่อใช้งานบนอินเตอร์เน็ตโดยตรง หมายความว่าเมื่อคุณจะใช้งานโปรแกรมนี้ คุณก็สามารถใช้ได้ทันทีผ่านอินเตอร์เน็ต เพียงแค่คุณล็อกอินเข้าสู่ระบบจัดการของ CMS นั้นๆ บางคนอาจจะคุ้นหูกับ cms เจ้าอื่น เช่น  joomla, simple machines, open cart, magento เป็นต้น

ข้อดีของ CMS ก็คือ สะดวกต่อการใช้งาน คุณไม่ต้องเริ่มสร้างเว็บจาก 0 ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางโปรแกรมเมอร์ เพราะระบบมีทุกอย่างไว้ให้ คุณมีหน้าที่เพียงแค่ใส่เนื้อหาของคุณเข้าไป

ข้อเสียของ CMS คือ บางครั้งก็อาจมีมากเกินความจำเป็น

 

WordPress ประกอบด้วยอะไรบ้าง

WordPress เขียนด้วยภาษา PHP และใช้ Apache, MySQL และ PhpMyAdmin ในการรันเป็นเซิฟเวอร์ คุณสามารถติดตั้ง Apache appserv หรือ xampp(ที่จริงก็ตัวเดียวกันแต่หน้า Config ใช้งานง่ายกว่า) เพื่อจำลองเซิฟเวอร์สำหรับติดตั้งและใช้งาน WordPress ได้ เพราะ WordPress นั้นจะรันอยู่บนฝั่งเซิฟเวอร์ เราจึงต้องมีเครื่องมือจำลองเซิฟเวอร์ซะก่อน

WordPress Core

คือ ตัวขับเคลื่อนหลัก เปรียบเสมือนเครื่องยนต์หลักของรถทุกคัน โดยเราสามารถดาวน์โหลด WordPress เวอร์ชั่นล่าสุดได้ที่ WordPress.org และ th.wordpress.org สำหรับเวอร์ชั่นภาษาไทย

Themes

ป็นส่วนแสดงผลภายนอก แล้วยังมีฟังชั่นเสริมต่างๆ มาด้วย เปรียบเสมือนดีไซน์ของรถซึ่งแต่ละบริษัทก็จะออกแบบมาแตกต่างกัน มีฟังชั่นพิเศษต่างกัน มีทั้งธีมฟรีและธีมแบบพรีเมี่ยม เราสามารถดาวน์โหลดธีมฟรีได้จาก https://wordpress.org/themes/ ซึ่ง เป็นแหล่งรวมธีมจากนักพัฒนาทั่วโลกส่งธีมของตัวเองขึ้นไปใ้เราสามารถติดตั้ง ใช้ได้ฟรีจากหน้าควบคุมของ WordPress เลย หรือใช้ Google ในการเสริช WordPress Free Theme แล้วตามด้วยประเภทของธีมที่ต้องการ เช่น WordPress Free Fashion Theme เป็นต้น สำหรับเว็บที่ทำธีมแบบพรีเมี่ยมมาขายก็มีเยอะเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีตลาดธีมที่ใหญ่ที่สุด คือ Themeforest.net ที่มีธีมมากกว่า 6,000+ ธีม ให้เราเลือกซื้อและดาวน์โหลด ข้อแตกต่างระหว่างธีมฟรีและพรีเมี่ยมนั้น นอกจากในเรื่องของฟังชั่นเสริมแล้ว ยังมีในเรื่องของการซัพพอร์ตจากคนเขียนธีม การอัพเดต ที่ธีมแบบพรีเมี่ยมจะให้ได้มากกว่า

Plugins

คือ ส่วนเสริมของ WordPress ที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับเว็บ เปรียบเสมือนการอัพเกรดเครื่องยนต์ให้ทำงานในแบบที่เราต้องการ หรือแม้แต่ดัดแปลงการสำหรับการใช้งานเฉพาะด้าน เช่น การใช้ปลั๊กอิน WooCommerce เพื่อสร้างร้านค้าขายสินค้าออนไลน์ ธีมพรีเมี่ยมมักจะมีฟังชั่นเสริมมากมายทำให้เราลดการติดตั้งปลั๊กอินลงไป เพราะการติดตั้งปลั๊กอินมากๆ ย่อมไม่ใช่เรื่องดี เพราะเมื่อมีการอัพเกรดในบางครั้งก็อาจจะมีการกระทบกับการทำงานกับส่วน อื่นๆ ทั้งกับธีมหรือปลั๊กอินด้วยกันเอง

ขั้นตอนในการสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress

  1. คิดก่อนว่าคุณจะทำเว็บไซต์อะไร
  2. หาธีมที่คุณชอบและเหมาะกับเว็บของคุณ
  3. ติดตั้ง WordPress, Theme, Plugins ที่ต้องการใช้งาน

ส่วนขั้นตอนโดยระเอียดหากมีเวลาจะมาทำแปะเพิ่มนะครับ  ^ ^

WordPress เหมาะกับเว็บไซต์แบบไหน

จริงๆ แล้ว WordPress เหมาะกับการทำเว็บไซต์ทุกแบบ แต่บางแบบนั้นเราอาจต้องรู้ลึกซึ้งหรือมีพื้นฐานทางด้านโปรแกรมเมอร์ด้วย ดังนั้น ณ ที่นี้เราจะขอพูดในแง่ของ Beginner จริงๆ เพราะ CMS แต่ละตัวนั้นก็มีจุดเด่นแตกต่างการ เว็บเหล่านี้เป็นเว็บที่เหมาะกับการใช้งาน WordPress ค่ะ

  1. เว็บบล็อก เหมาะมากสุดๆ เป็น cms ที่บล็อกเกอร์ใช้งานมากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้
  2. เว็บ Article เขียนบทความต่างๆ รีวิวโรงแรม ร้านอาหาร งานฝีมือ แอปมือถือ ฯลฯ
  3. เว็บข่าว เว็บวาไรตี้ การจัดหมวดหมู่และแท็ก ( Categories, Tags ) ใน WordPress นั้นช่วยได้ง่ายมากๆ ธีม Magazine ก็เยอะสุดๆ เช่นกัน เว็บข่าวที่ไม่ใช่สำนักข่าวโดยตรงก็มักจะใช้ WordPress เพราะสามารถลดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า
  4. เว็บ Portfolio มีธีมเกี่ยวกับ Portfolio เยอะมากมายให้คุณนำเสนอผลงานของคุณได้อย่างน่าสนใจ
  5. เว็บบริษัท มีธีมที่ดูน่าเชื่อถือ เป็น Professional ให้เลือกมากมาย มีเครื่องมือครบครันโดยเราไม่ต้องจ้างออกแบบเพิ่ม
  6. เว็บไซต์ e-commerce ขายสินค้าออนไลน์ โดยใช้ปลั๊กอินเช่น WooCommerce หรือ Easydigitaldownloads
  7. นอกจากนี้ WordPress ยังสามารถสร้างเว็บบอร์ด และเว็บ community ได้ด้วย โดยใช้ปลั๊กอินเช่น bbPress
  8. เว็บไซต์ที่ต้องการความแรงในด้าน SEO เพราะ WP ถือว่าเด่นในเรื่องนี้มากๆ เขียนเล่นๆ ก็ติดผลการค้นหาใน Google ได้
  9. เว็บไซต์ที่มีหลายภาษา WordPress นั้นถูกแปลทั่วโลกรวมทั้ง ภาษาไทย และยังมีปลั๊กอินที่ช่วยจัดการเนื้อหาสำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการใช้หลายภาษาด้วย เช่น WPML, Polylang

สร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress ยากหรือง่ายแค่ไหน

WordPress ถูกสร้างมาเพื่อให้ใช้งานง่ายที่สุด แต่แน่นอนว่าแต่ละคนมีความเร็วในการปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีต่างกัน และด้วย WordPress นั้นสร้างมาเพื่อรองรับเว็บหลายแบบ ดังนั้นมันก็จะมีการตั้งค่าต่างๆ พอสมควร โดยเฉพาะเมื่อเราติดตั้งปลั๊กอินมากขึ้นก็ยิ่งจะต้องตั้งค่ามากขึ้นด้วย (ถึงได้บอกว่า ถ้าเขียนบล็อกอย่างเดียว ไม่พร้อม ไม่อยากเรียนรู้ ไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้น ให้ไปใช้ WordPress.com แทน)

สำหรับการสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress นั้น นอกจากการจัดการข้อความต่างๆ แล้ว สิ่งที่จะทำให้เว็บของเราเป็นรูปเป็นร่างสวยงามนั้น พระเอกสำหรับงานนี้ก็คือ Theme นั่นเอง

โดยธีมนั้นจะมีทั้งธีมเฉพาะด้าน ที่จะกำหนดตำแหน่งต่างๆ มาไว้เรียบร้อย ธีมแบบนี้ช่วยให้เราทำงานได้ง่าย การตั้งค่าไม่เยอะมาก แค่กำหนดข้อมูลว่าเราอยากจะให้อะไรไปโผล่ส่วนไหนบ้าง ธีมก็จะจัดการออกมาให้เราโดยไม่ต้องวุ่นวายกับการตั้งค่ายิบย่อยเยอะๆ มีหลายแนว ไม่ว่าจะแนว Magazine, Business, Blog, eCommerce เป็นต้น เว็บธีมต่างๆ มักจะแบ่งประเภทไว้ให้เราเรียบร้อยแล้ว แต่จริงๆ แล้วมันก็อยู่ที่จินตนาการของเราว่าจะประยุกต์เอาธีมไหนมาทำอะไร เพราะเราสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้อยู่แล้ว

ส่วนธีมอีกแบบ เรียกว่าเป็น Page Builder คือธีมที่ประกอบไปด้วยโมดูลหรือชิ้นส่วนต่างๆ เยอะแยะมากมายให้เรานำมาประกอบกันเพื่อสร้างหน้าเว็บที่ต้องการเอง ธีมแบบนี้สามารถที่จะสร้างเว็บได้หลากหลายแนว อาจจะเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่าเป็นธีมแนว Multipurpose ธีมแบบนี้เหมาะสำหรับการสร้างเว็บที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เพราะสามารถสร้างหน้าตาที่แตกต่าง ไม่ถูกกำหนดไว้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ทุกส่วนที่นำมาประกอบกัน ก็ต้องตั้งค่าแต่ละส่วนด้วย เว็บที่เหมาะกับแนวนี้เช่น เว็บบริษัทหรือ Coporate เพราะแต่ละบริษัทก็จะมีข้อมูลที่แตกต่างกัน สำหรับแสดงผลงานหรือสำหรับนักออกแบบต้องการนำเสนอจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งธีมแนวนี้จะตอบโจทย์มากที่สุด

เราสามารถเลือกธีมที่สวยงาม มีการจัดวาง รูปแบบ สีสัน ในแบบที่เราชอบ ที่เหลือก็จะเป็นการทำคอนเท้นของเราให้สวยงาม ก็จะทำให้เว็บของเราดูดีมีสไตล์ขึ้นมาได้ โดยแทบไม่ต้องร่ำเรียนมาทางด้านนี้โดยตรงก็ได้ หากแต่เราอาจจต้องตามเทรนและดูการออกแบบของเว็บที่สวยๆ ไว้เป็นแรงบันดาลใจมากๆ และรู้ว่าเราต้องการให้เว็บเราออกมาแบบไหน มีจุดยืนเป็นของตัวเอง ก็จะทำให้เว็บไซต์ของเรานั้นโดดเด่นออกมาจากเว็บของคนอื่นได้

 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.wpthaiuser.com