การตรวจสุขภาพจะช่วยให้เห็นปัญหาก่อนที่โรคจะลุกลามกลายเป็นโรคร้ายแรง ช่วงอายุ 20-30 ปี เป็นช่วงที่มักไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ และการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลจะช่วยให้เห็นปัญหา ทำให้คุณมีโอกาสเปลี่ยนแปลงแก้ไขก่อนจะเป็นโรคขึ้นมา การตรวจสุขภาพต่อไปนี้อาจไม่ครอบคุมทั้งหมด และขึ้นอยู่กับประวัติของครอบครัวของคุณว่าคุณต้องตรวจแต่ละอย่างจำนวนกี่ครั้ง ดังนี้นจึงจำเป็นที่จะต้องปรึกษาแพทย์และให้ข้อมูลต่อไปนี้ประกอบ
- ความดันโลหิต
การตรวจวัดความดันโลหิตสามารถทำได้ทั้งที่บ้านและโรงพยาบาล โดยใช้ที่วัดต้นแขนสำหรับวัดความดันโลหิต ซึ่งจะได้ตัวเลขออกมา 2 จำนวน คือ ค่าความดันโลหิตสูงสุดที่เกิดหลังระยะบีบตัวของหัวใจหรือเลขตัวบน และความดันเมื่อหัวใจคลายตัวหรือเลขตัวล่าง
>> ความถี่ ทุกๆ 2 ปี
>> เป้าหมาย ค่าของตัวบนต่ำกว่า 120 และตัวล่างต่ำกว่า 80
>> ประโยชน์ ทำให้เห็นสัญญาเตือนถึงปัญหาโรคหัวใจในช่วงแรก หากคุณมีระดับความดันโลหิตสูง ให้กินอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายเพื่อให้ความดันลดลง
- ระดับคอเลสเตอรอล
คุณสามารถวัดระดับคอเลสเตอรอลได้ด้วยการตรวจเลือดซึ่งจะให้ค่าตัวเลข 2 จำนวน คือ ค่าคอเลสเตอรอลรวม และค่าของไขมันที่เป็นประโยชน์ HDL
>> ความถี่ อย่างน้อย 5 ครั้งต่อปี และอาจทำได้บ่อยหากคุณน้ำหนักเกินหรือในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหัวใจ
>> เป้าหมาย ระดับไขมันโดยรวมต่ำกว่า 200 โดยมีระดับ HLD สูงกว่า 40
>> ประโยชน์ ระดับคอเลสเตอรอลที่สูงเป็นสัญญาณเตือนของโรคหัวใจ
- ทันตกรรม
ง่ายมากที่จะเลิกไปหาหมอฟัน แค่การทำความสะอาดเป็นประจำก็ช่วยให้พันและเหงือกมีสุขภาพดี
>> ความถี่ ไปพบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละครั้ง หรือทุก 6 เดือนจะดีกว่า
>> เป้าหมาย ไม่มีฟันผุหรือเหงือกอักเสบ
>> ประโยชน์ ป้องกันปัญหาในช่วงปากก่อนที่จะลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่ และป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อในช่องปาก
- โรคเบาหวาน
การตรวจเลือดจะทำให้แพทย์ทราบถึงระดับน้ำตาลในเลือกซึ่งจะบอกให้ได้ว่าร่างกายของคุณสามารถจัดการกับน้ำตาลในเลือดได้ดีเพียงใด
>> ความถี่ หากในครอบครัวมีประวัติการเป็นโรคเบาหวาน และคุณมีน้ำหนักเกินหรือมีความดันโลหิตสูง ก็ควรไปตรวจเลือดโดยแพทย์จะเป็นผู้กำหนดการตรวจครั้งต่อไปซึ่งขึ้นอยู่กับผลการตรวจ
>> เป้าหมาย ระดับน้ำตาลต่ำกว่า 100
>> ประโยชน์ การรักษาในขั้นต้นจะช่วยให้ไม่เกิดโรคแทรกซ้อน
- การตรวจเต้านมด้วยต้นเองหรือที่โรงพยาบาลและตรวจมะเร็งปากมดลูกสำหรับผู้หญิง
การตรวจด้วยตนเอง – การตรวจเต้านมด้วยตนเองทำให้พบปัญหาระยะแรก
>> ความถี่ ทุกเดือน
>> เป้าหมาย ไม่พบก้อนเนื้อ
>> ประโยชน์ หากพบว่าเป็นมะเร็งในระยะแรกจะช่วยให้รักษาทันเวลา
การตรวจที่โรงพยาบาล- สูตินรีแพทย์จะตรวจหาก้อนเนื้อและความผิดปกติต่างๆ ของเต้านมที่จะต้องตรวจเพิ่มเติมต่อไป
>> ความถี่ ทุกๆ 3 ปี
>> เป้าหมาย ไม่พบก้อนเนื้อ
>> ประโยชน์ หากพบว่าเป็นมะเร็งในระยะแรกจะช่วยให้รักษาทันเวลาและให้ผลการรักษาที่ดี
การตรวจมะเร็งปากมดลูก – การตรวจมะเร็งปากมดลูกเป็นส่วงนึงของการตรวจภายในสตรี
>> ความถี่ ทุกๆ 1-3 ปี
>> เป้าหมาย ให้ผลเป็นลบ
>> ประโยชน์ ทำให้พบมะเร็งในระยะเริ่มต้นและทำให้รักษาได้ทันเวลา
- การตรวจดวงตา
อาการปวดศรีษะ เหนื่อยล้า และปัญหาอื่น มักจะเกิดจากปัญหาด้านสายตา ดังนี้นจะต้องให้แน่ใจว่าสายตาปกติและดวงตามีสุขภาพดี
>> ความถี่ อย่างน้อยทุกๆ 10 ปี และอาจบ่อยกว่าหากคุณมีปัญหาทางสายตาหรือต้องใส่คอนแทกต์เลนส์
>> เป้าหมาย ดวงตามีสุขภาพดี
>> ประโยชน์ จักษุแพทย์สามารถตรวจพบโรคได้หลายชนิด รวมถึงโรคเบาหวาน
- การตรวจลูกอัณฑะด้วยตัวเองสำหรับผู้ชาย
การตรวจแบบง่ายๆ จะทำให้แน่ใจว่าทุกอย่างเป็นปกติ ให้ตรวจหาก้อนเนื้อ ดูว่าเจ็บหรือไม่ และตรวจสอบขนาดของลูกอัณฑทะว่าเป็นปกติหรือไม่
>> ความถี่ ปีละ 4 ครั้ง
>> เป้าหมาย จะต้องมีรูปร่างคล้ายผลวอลนัดที่มีหาง
>> ประโยชน์ จะช่วยให้ตรวจพบมะเร็งลูกอัณฑะ ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบได้ปกติในคนวัยรุ่น
- การตรวจมะเร็งผิวหนัง
แพทย์โรคผิดหนังสามารถตรวจผิวหนังของคุณได้โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที ซึ่งการตรวจนี้เป็นสิ่งที่สำคัญหากคุณมีประวัติเป็นผิวหนังอักเสบจากการถูกแสดงแดดหรือเคยเปลี่ยนสีผิว
>> ความถี่ ทุก 1-3 ปี
>> เป้าหมาย ไม่มีไฝแปลกๆ หรือสัญญาณผิดปกติ
>> ประโยชน์ การตรวจพบในขั้นต้นจะช่วยให้ประสบผลสำเร็จในการรักษา
- การทบทวบพฤติกรรม
การทบทวบพฤติกรรมไมใช่การตรวจทางการแพทย์ แต่เป็นโอกาสที่จะได้ประเมินการใช้ชีวิตของตัวเองโดยมีวิธีดังนี้
>> ข้อมูลด้านอาหาร จดบันทึกอาหารและเครื่องดื่มทุกอย่างที่คุณกินและดื่มในแต่ละวัน (รวมทั้งปริมาณ) ทบทวนรายการเพื่อลดปริมาณแคลอรี่ ลดพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งเพิ่มโอกาสที่จะปรับปรุใหม่
>> ทบทวนการออกกำลังกาย หากคุณออกกำลังกายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็จะต้องทำให้มากขึ้น
>> สังเกตุความเครียจ ทำรายการสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกเคียจและสิ่งที่ทำให้คุณมีสุขภาพดีรู้สึกผ่อนคลาย พยายามลบสิ่งที่ทำให้เครียจ และเพิ่ม สิ่งที่ทำให้คุณผ่อนคลายจนกระทั่งปริมาณทั้ง 2 อย่างเท่ากัน
- การสร้างภูมิคุ้มกัน
การสร้างภูมิคุ้มกันเป็นสิ่งที่สำคุญที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้คุณมีสุขภาพดี ดังนั้นจะต้องแน่ใจว่าคุณได้รับวัคซีนตามเวลาที่กำหนด
>> ไวรัส HPV (ไวรัสฮิวแมนแปปปิโลมา) สำหรับผู้หญิง
>> วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
>> บาดทะยัก/คอตีบ ทุกๆ 10 ปี
>> โรคตับอักเสบเอ (หากเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ยกเว้น สหรัฐอเมริกา แคนนาดา ยุโรปตะวันตก ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และ ออสเตรเลีย)
- เพิ่มผักและผลไม่ 2 ชนิดเพื่อให้สุขภาพดียิ่งขึ้น
เรารู้อยู่เสมอว่าควรกินผักและผลไม้ และในที่สุดวิทยาศาสตร์ก็บอกเราได้ตรงกับความารู้สึกของเราเอง จากการศึกษาพฤติกรรมการกินอาหารและสุขภาพโดยรวมของชายและหญิงจำนวน 16,732 คนที่มีอายุระหว่าง 40-79 ปีในสหราชอาณาจักรนั้น พบว่ายิ่งกินผักและผลไม้มากเท่าไหร่สุขภาพโดยรวมยิ่งดีขึ้นเท่านั้น โดยไม่ต้องพิจารณาถึงการสูบบุหรี่หรือโรคต่างๆที่เป็นอยู่
ควรกินมากเท่าใด
กินผักผลไม้เพิ่ม 2 ชนิดในแต่ละวันจะช่วยให้ร่างกายทำงานได้ปกติขึ้นร้อยละ 11 ดังนั้นจะต้องให้แน่ใจว่าคุณกินผักหรือผลไม้ 2 ชนิดในแต่ละวัน
ทำได้อย่างไร
สิ่งที่คุณต้องทำก็คือกินผักเพิ่มขึ้นในช่วงอาหารเย็น และกินแอปเปิลหรือผลไม่ชนิดอื่นๆเป็นของขบเคี้ยว
ที่มา หนังสือ ศาสตร์แห่งการดูแลสุขภาพเพื่อให้ความขรามาเยือนช้าที่สุด โดย วรรณวิภา ชูสเตอร์
0 Comments